ในทางพระพุทธศาสนา กำหนดให้ใน 1 เดือน ต้องมีการประเพณีการ ทอดกฐิน แต่ต้องไม่เลยลอยกระทง เงื่อนไขวัดที่สามารถรับกฐินได้ ต้องมีพระภิกษุจำพรรษาโดยไม่ขาดพรรษาเลยไม่ต่ำกว่า 1 รูป แต่ต้องใช้พระภิษุสงฆ์ 5 รูป ในการรับกฐิน 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ในระยะเวลา 1 เดือน เป็นการถวายทานที่มีกุศลแรงมากเพราะ 1 ปี ทำได้ครั้วเดียว และ1 วัดมีสิทธิ์ รับกฐินได้ครั้งเดียว การถวายกฐินได้ถูกบัญญัติกฎไว้ในพระพุทธศาสนา และได้ต้องมีการปิดประกาศไว้ให้บุคคลอื่นเห็นกันอย่างชัดเจน ให้ทุกคนทราบ เพราะกฐินเป็นบุญใหญ่ หลังจากเข้าพรรษา จะได้เชิญผู้มีจิตศัทรามาร่วมกันบริจาคสิ่งของทั้งหลาย การบริจาค ครั้งนี้ให้วัดโดยตรงเพื่อไปใช้ ในสาธรณะกุลศล ผ้าที่ถวายต้องถูกต้องตามลักษณะที่พระวินัยกำหนดไว้ พระภิษุสงฆ์ต้องทำผ้าทอดกฐิน ทำขึ้นมาใหม่ต้องทำให้เสร็จเรียบร้อยก่อนทอดกฐิน เป็นชื่อเรียกงานบุญประเพณีถวายผ้าไตรจีวรแก่พระสงฆ์เพื่อทอดกฐิน งานกระฐินเองเราก็สามารถนำร่มไปถวายร่วมกับสังฆทาน เพื่อให้ท่านได้ใช้ประโยชน์ เพราะท่านไม่สามารถออกมาหาซื้อได้ หรือถวายให้ญาติโยม ได้ใช้ภาในวัดระหว่างร่วมพิธีหรือใช้สาธารณะกุศลภายในวัด เป็นเรื่องเล็กที่เราทำได้
คำถวายผ้ากฐิน
" อิมัง มะยัง ภันเต สะปะริวารัง กะฐินะจีวะระทุสสัง สังสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต สังโฆ อิมัง สะปะริวารัง กะฐินะทุสสัง ปะฏิคคัณหาตุ ปะฏิคคะเหตตะวาจะ อิมินา
ทุสเสนะ กะฐินัง อัตถะระตุ อัมหากัง ฑีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ นิพพานายะจะ ฯ "
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้ากฐินจีวร กับทั้งบริวารนี้ แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงรับผ้ากฐินกับทั้งบริวารนี้ ของ ข้าพเจ้าทั้งหลาย และ เมื่อรับแล้วขอจงใช้ กฐิน ด้วยผ้านี้ เพื่อประโยชน์ และ ความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ ฯ
เป็นประเพณีที่สืบทอดตังแต่สมัยสุโขทัย เป็นการรวมมือร่วมใจของผู้ที่เคารพศรัทธา เป็นงานการทอดกฐินเพราะทุกคนเชื่อว่ามีกุศลอันแรงกล้าสามารถให้เราประสพความสำเร็จทุกสิ่งที่เราคิดได้
อนิสง ทำให้เป็นผู้มั่นคงมีเงินทอง มีความสำเส็จ ในหน้าทีการงาน จิตในบริสุทธ์ มีบุญติดตัวไปภพภูมิหน้าผิวพรรณสวยงามใครเห็นก็เมตตา น่าเคารพสรรเสริญยกย่อง